พ.ศ. 2567

ธรรมยาตราโพธิคยา ครั้งที่ 3

พระบรมสารีริกธาตุ มหานทีคงคาลุ่มน้ำโขง

เป็นโครงการที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เป็นงานธรรมยาตราเชื่อมดินแดนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากมหาธรรมนทีคงคาอินเดีย สู่แผ่นดินแห่งพุทธธรรมลุ่มน้ำโขงไทย นำเสด็จฯ โดยพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า จากพิพิธภัณท์สถานแห่งชาติอินเดีย ตามเสด็จฯ โดยพระสารีริกธาตุของอัครสาวกซ้าย-ขวา พระสารีบุตร พระมหาโมคคลานะ จากมหาสถูปสาญจี อินเดีย ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ถึง 19 มีนาคม พ.ศ.2567 โครงการฯ ดังกล่าวเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างสถาบันโพธิคยาวิชาลัย 980 รัฐบาลอินเดีย รัฐบาลไทย เพื่อเชื่อมต่อและเผยแผ่พลังศรัทธาของประชาชนในพุทธธรรมของทั้ง 2 ภูมิภาคให้มั่นคงสืบไป สร้างอานิสงส์ของหลักธรรมให้เกิดพลังสามัคคี และความดีของมวลมนุษยชาติ อยู่ร่วมกันอย่างสันติบนหลักปรัชญาพระธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นโอกาสให้ประชาชนได้กราบสักการะ รวมทั้งเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญในการเสด็จฯ ขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อประทานพรโปรดพุทธศาสนิกชน หลังจากว่างเว้นไปเกือบ 1 ศตวรรษ การเสด็จฯ ของพระบรมสารีริกธาตุในครั้งนี้นั้นเปรียบประดุจเสด็จโดยพระพุทธองค์เอง การถวายการรับเสด็จจึงเปิดโอกาสให้พุทธบริษัทสามารถดำเนินกิจกรรมทางศาสนาร่วมกันในด้านต่าง ๆ อาทิ ศาสนาพิธี และศาสนาธรรม เพื่อสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงธรรมะให้เกิดขึ้นเพื่อสืบทอดความรัก ความสามัคคี และสร้างสันติสุขโดยธรรมให้เกิดขึ้นในแผ่นดินเอเชีย อันเป็นแผ่นดินกำเนิดของพระพุทธศาสนากำเนิดและประดิษฐานอย่างมั่นคงเป็นเวลากว่า 2600 ปีมาแล้ว

ธรรมวิชัยสู่ศตวรรษแห่งธรรม

จุดเทียนธรรม อุบลราชธานี เมืองกัมมัฏฐานโลก

สถาบันโพธิคยาฯ ได้พิจารณาแล้วเห็นสมควรนำโอกาสมหามงคลในการเสด็จของพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมพระอัครสาวก นี้ จัดโครงการขยายผลและต่อยอดอันจะเป็นประโยชน์ต่อศรัทธาพุทธบริษัทที่มีต่อพระพุทธศาสนาทั้งหลาย ให้เจริญสู่การปฏิบัติธรรมจนเกิดปัญญาในการแก้ปัญหามวลมนุษยชาติ โดยพิจารณาว่า จังหวัดอุบลราชธานี มีความเหมาะสมเป็นจังหวัดแรกของการจัดโครงการครั้งนี้ อันสอดคล้องกับชื่อเสียงของจังหวัดที่ขึ้นชื่อว่า เป็นแดนนักปราชญ์ ประชาชนใฝ่ธรรม และเป็นเมืองแห่งแสงธรรม และโดยเฉพาะเป็นถิ่นกำเนิดพระอริยสงฆ์ อาทิ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่ชา สุภัทโท

จากแนวคิดดังกล่าว สถาบันโพธิคยาฯ จึงได้ดำริจัดโครงการเสวนาธรรมในหัวข้อ “ธรรมวิชัยสู่ศตวรรษแห่งธรรม” จุดเทียนธรรม อุบลราชธานี เมืองกัมมัฏฐานโลก ขึ้น เพื่อรณรงค์การนำหลักพุทธธรรมเพื่อขยายผล และต่อยอด ให้เกิดแก่นธรรมแก่มวลมนุษยชาติ ในวันศุกร์ที่ 20 เดือนมิถุนายน 2567 ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมรับฟังประมาณ 3,500 รูป/คน ประกอบด้วย คณะสงฆ์ หัวหน้าส่วนราชการ นักวิชาการ นักธุรกิจ ประชาชน และสื่อมวลชน

รางวัลโพธิคยานาคาธิบดี ครั้งที่ 2

สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ได้กำหนดการจัดพิธีมอบ รางวัลโพธิคยานาคาธิบดี ครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการ ให้กับผู้ที่ได้รับรางวัลอย่างสมเกียรติ ณ องค์พญาศรีภุชงค์นาคราช ลานพระอาทิตย์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ในวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ.2567 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 9 ปีมะโรง ซึ่งตรงกับวันนาคาปัญจามี ในปฏิทินศาสนาฮินดู

ธรรมวิชัยสู่ศตวรรษแห่งธรรม

กระบี่ประตูอารยธรรมศักดิ์สิทธิ์ พญาภุชงค์นาคราช เชิดชูมหาราชแห่งธรรม

จากจำนวนศรัทธาพุทธบริษัทที่เข้ากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุพระสารีบุตรและพระมหาโมคคัลลานะ ได้สร้างสถิติการรวมตัวของชาวพุทธครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ ที่จังหวัดกระบี่ เป็นสถานที่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ พระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ มาประดิษฐานชั่วคราวที่ วัดมหาธาตุวชิรมงคล โดยปรากฏมีศรัทธาพุทธบริษัทจากจังหวัดกระบี่ และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านเข้าร่วมงาน 4 วัน จำนวนสูงถึง 720,667 คน อันเป็นจำนวนที่แสดงให้เห็นถึงพลังศรัทธามหาชนที่มีต่อพระพุทธศาสนาอย่างท่วมท้น

สถาบันโพธิคยาฯ จึงได้ดำริจัดโครงการเสวนาธรรมในหัวข้อ “ธรรมวิชัยสู่ศตวรรษแห่งธรรม” กระบี่ประตูอารยธรรมศักดิ์สิทธิ์ พญาภุชงค์นาคราช เชิดชูมหาราชแห่งธรรม ขึ้น เพื่อรณรงค์การนำหลักพุทธธรรมเพื่อขยายผล และต่อยอด ให้เกิดแก่นธรรมแก่มวลมนุษยชาติ ในวันเสาร์ที่ 10 เดือนสิงหาคม 2567 ที่โรงแรม โซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ทโดยกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมรับฟัง ประกอบด้วย คณะสงฆ์ หัวหน้าส่วนราชการ นักวิชาการ นักธุรกิจ ประชาชน และสื่อมวลชน

งาน International Dharma Dhamma Conference 2024

ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ ในฐานะ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 พร้อมด้วยนางสาวภัทรัตน์ หงษ์ทอง เอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เข้าร่วมการประชุมทางวิชาการระหว่างประเทศ ครั้งที่ 8 ในงานประชุม International Dharma Dhamma Conference 2024 ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์ประชุม มหาวิทยากุจรัต (Gujarat University) ประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 23-25 สิงหาคม พ.ศ.2567 โดยมี Honorable Jagdeep Dhankhar รองประธานาธิบดีอินเดีย เป็นผู้เปิดการประชุมฯ และมี Honorable Acharya Devvrat ผู้ว่าการรัฐกุจรัต และ Honorable Bhupendra Patel หัวหน้ารัฐมนตรีรัฐกุจรัต โดยมีผู้นำฝ่ายสงฆ์ร่วมด้วย อาทิ SWAMI SHRI GOVINDA DEV GIRI JI MAHARAJ Treasurer, Shri Ram Janmabhoomi Teerth Kshetra Trust ประเทศอินเดีย. SWAMI BRAHMAVIHARIDAS, BAPS Swaminarayan Sanstha ประเทศอินเดีย และ Most Ven. Banagala Upatissa Nayake Thero , President, Mahabodhi Society of Sri Lanka, ประเทศศรีลังกา เข้าร่วมในพิธีเปิดดังกล่าว

สถาบันฯ ลงนาม MOU กับ IBC

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงนิวเดลี อินเดีย ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ได้ลงนามความตกลงว่าด้วย“ความร่วมมือทางวิชาการ การวิจัย การประชุม และกิจกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา“ กับ Shri Abhijit Halder, Director General สมาพันธ์พระพุทธศาสนาระหว่างประเทศ (IBC) โดยมี Ven. Khensur Rinpoche Jangchup Choeden, เลขาธิการ สมาพันธ์พระพุทธศาสนาระหว่างประเทศ (IBC) นางสาวภัทรัตน์ หงษ์ทอง เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงนิวเดลี ร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมด้วย Most Venerable Banagala Upatissa Nayaka Thero ประธานสมาคมมหาโพธิแห่งประเทศศรีลังกา และท่าน Kshenuka Senewiratne ข้าหลวงใหญ่แห่งประเทศศรีลังกาประจำอินเดีย

สถาบันฯ ลงนาม MOU กับ ICCS

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงนิวเดลี อินเดีย ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ได้ลงนามความตกลงว่าด้วย “ความร่วมมือในด้านวัฒนธรรม และการศาสนา“ กับ Dr. Aashish Bhave ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาวัฒนธรรมระหว่างประเทศ (International Centre for Cultural Studies) ของประเทศอินเดีย โดยมี Mr. Suresh Soni, Patron ศูนย์การศึกษาวัฒนธรรมระหว่างประเทศ (ICCS) นางสาวภัทรัตน์ หงษ์ทอง เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงนิวเดลี ร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมด้วย Most Venerable Banagala Upatissa Nayaka Thero ประธานสมาคมมหาโพธิแห่งประเทศศรีลังกา ท่าน Kshenuka Senewiratne ข้าหลวงใหญ่แห่งประเทศศรีลังกาประจำอินเดีย

ธรรมยาตราโพธิคยา ครั้งที่ 4

ลุ่มน้ำโขงสู่มหานทีคงคา ประกาศศตวรรษแห่งธรรม ณ แดนพุทธภูมิ สาธารณรัฐอินเดีย

ธรรมยาตรา ครั้งที่ 4 จากลุ่มน้ำโขงสู่มหานทีคงคา เพื่อประกาศศตวรรษแห่งธรรม ณ ดินแดนพุทธภูมิ สาธารณรัฐอินเดีย (สาญจี – ปัตตนะ – นาลันทา – พุทธคยา – กรุงนิวเดลี – คุชราต) จัดขึ้นระหว่าวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคน 2567 ซึ่งมีจุดสำคัญในงาน คือ การประกาศปฏิญญาศตวรรษแห่งธรรม และการมอบแคปซูลกาลเวลา (Time Capsule) ในวันที่ 5 ธันวาคม 2567

ธรรมยาตรา ครั้งที่ 4 ได้สร้าง “สารัตถะ” ที่เป็นรูปธรรม ”ด้านศาสนา“ คือ “การประกาศศตวรรษแห่งธรรม” ซึ่ง “ธรรมะ“ ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะ ”พุทธศาสนา“ แต่หมายรวมถึง ”ธรรมะ“ ของทุกศาสนาในโลกใบนี้ นอกจากนั้นยังขยายผลด้วย ”การเตรียมบรรจุแคปซูลแห่งกาลเวลา” ทั้ง “ดินแดนพุทธภูมิ” และ “ดินแดนสุวรรณภูมิ 3 จุด โดยจะถูกเปิดในโลกอนาคตอีก 234 ปีข้างหน้า สารัตถะที่เป็นรูปธรรม ”ด้านการต่างประเทศ“ คือการมีโอกาสเข้าพบ 2 รัฐมนตรีคนสำคัญของรัฐบาลกลางอินเดีย คือ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม” และ ”รัฐมนตรีกิจการรัฐสภา และกิจการชนกลุ่มน้อย“ รวมถึงผู้บริหารสูงสุดแห่งรัฐ คือ ”มุขมนตรีรัฐพิหาร และมุขมนตรีรัฐคุชราต” เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ไทย-อินเดีย ให้แน่นแฟ้น และยังเชื่อมโยง “เอเซียใต้และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้” โดยใช้ “ศาสนา” เป็นมิตินำยิ่งไปกว่านั้นยังได้เชื่อมความสัมพันธ์กับภาคีเครือข่าย “สถาบันคลังปัญญา“ หรือ Think Tank สำคัญของอินเดีย อาทิ IBC, ICCS, IGNCA, VIF และ ITCC ฯลฯ ที่เป็นหน่วยงานและองค์กรดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ