สัมวาทะ "การเสริมสร้างความมั่นคงแห่งพระพุทธศาสนา"

สัมวาทะ "การเสริมสร้างความมั่นคงแห่งพระพุทธศาสนา"

สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 จัดสัมวาทะ เรื่อง การเสริมสร้างความมั่นคงแห่งพุทธศาสนา” เพื่อเป็นเวที “ร่วมฟัง ร่วมคิด ร่วมหาทางออก” สะท้อนปัญหาและแลกเปลี่ยนมุมมอง เสนอแนวทางฟื้นฟูพระพุทธศาสนาอย่างสร้างสรรค์
_NUT1710 _NUT1747 _NUT1784 _NUT1806 _NUT1815 _NUT1826 _NUT1851 _NUT1857 _NUT1899 _NUT1920 _NUT1922 _NUT1959 _NUT1971 _NUT1974 _NUT1977 _NUT1984
พระเมธีวรญาณ คณบดีคณะพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) กล่าวว่า ศรัทธาเป็นคุณธรรมเบื้องต้นสำคัญทางพุทธศาสนา ที่จะทำให้เราก้าวไปสู่คุณธรรมชั้นสูงได้ ศรัทธาที่มั่นคงเป็นด่านแรกที่จะพิสูจน์จิตใจของการเข้าถึงหลักธรรมในพระพุทธศาสนา ศรัทธาจะเกิดขึ้นได้ต้องมีสัมมาวาทะเริ่มจากสุตะ คือ การฟังให้เกิดศรัทธา เช่น การฟังพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ฟังหลักคำสอนจากพระสงฆ์ เมื่อฟังแล้วต้องพหูสูตร หรือ พาหุสัจจะ คือฟังอย่างรอบด้านแล้วพิจารณา เป็นการฟังจากสัตตบุรุษ คือคนดี มีความสามารถ มีความเชี่ยวชาญด้านพุทธศาสนา นำมาสู่การปฏิบัติ ด้วยศรัทธาที่มีปัญญากำกับ การศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญ พระสงฆ์ต้องมี ปริยัติธรรม ปฏิบัติ ปฏิเวท ที่ศึกษาจากครูบาอาจารย์ แล้วคิดโดยกระบวนการลงสู่การปฏิบัติ พิจารณาตัวเองว่ามีความรู้เพื่อนำไปสู่ความพ้นทุกข์และความเจริญมากน้อยแค่ไหน เพราะตนควรเตือนตนด้วยตนเอง ยกตัวอย่างการศึกษาของคณะสงฆ์ และนิสิตของ มจร. จบการศึกษาต้องมีการปฏิบัติธรรมอย่างน้อย 30 วัน หรือ 3 – 5 เดือน เน้นการศึกษาควบคู่การปฏิบัติ พัฒนาให้เป็นวัดในมหาวิทยาลัย ดังนั้นการศึกษา หรือกฎข้อบังคับไม่ใช่ปัญหา เพราะหากต้องการความเจริญก็อยู่ที่เราจะเลือกทางเดินหรือปฏิบัติเพื่อเป้าหมายของการหลุดพ้น แต่เพราะการอยู่ร่วมกันจึงต้องบัญญัติพระธรรมวินัยเป็นเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการปฏิบัติธรรม ในยุคปัจจุบันไม่ได้ทำความเข้าใจเรื่องพระธรรมวินัย แต่ตามกระแสแล้วผิดหวังเพราะไม่เป็นดังใจ หรือไม่ได้สนใจ หรือแอบพึงพอใจว่าควรจะเป็นอย่างนี้ ซึ่งควรใช้สติปัญญาอย่างมาก คือใช้สติเป็นตัวกรอง แล้วใช้ปัญญาเป็นตัวตัดกระแส ให้จิตใจเป็นไปตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเหมือนการทดลองจิตใจเรา การศึกษาเล่าเรียนในไตรสิกขาจึงเป็นแก่นสำคัญในพระพุทธศาสนา
พระสมทบ ปรกฺกโม ปราชญ์พุทธศาสนา วัดกลาง จังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า การหยั่งรากลึกของพระรัตนตรัย ต้องเริ่มจากการนับถือพระรัตนตรัยของผู้นำ ครั้งสมัยพระเจ้าพิมพิสาร ต้องปรับพื้นฐานของศีลธรรมเบื้อต้น จนแทงตลอดอริยสัจ ผู้นำทุกระดับจึงต้องเข้าสู่ธรรมะ เพื่อเป็นการหมุนกงล้อแห่งธรรม ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ผู้ขับเคลื่อนหมุนกงล้อแห่งธรรมต้องผลักดันและขับเคลื่อนในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม เข้าสู่กระแสชีวิตของมนุษย์ ในยุคปัจจุบันโครงสร้างสงฆ์มีปัญหา เพราะฆารวาสเป็นคนคิดเพื่อเอาพระสงฆ์มาเพื่อยึดโยงไว้ในระบบ พระสงฆ์ถือเป็นคนของอาณาจักรที่เข้ามาในพุทธจักร เมื่อเข้ามาแล้วทำทำลายพระศาสนา ต้องโทษอาณาจักรที่กรองไม่ดีก่อนที่จะส่งเข้ามาในพุทธจักรที่ต้องเป็นผู้สละ พุทธจักรไม่มีอำนาจใดๆ ขณะที่ผู้ดูแลอาณาจักรแล้วยังหลอกล่อคนในพุทธจักรให้ออกนอกธรรมวินัย ด้วยทรัพย์ ยศ อำนาจ ระบบ และเขียนกฎหมายกำกับไว้ทำให้หลงทาง แล้วจะให้นำพระกลับมาในพระธรรมวินัย ทั้งที่โครงสร้างที่มนุษย์ทำไว้ไม่ได้สอดรับในพระธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ ซึ่งระบบโครงสร้างนั้นมีทั้งกฎหมายบ้านเมือง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ และพระธรรมวินัย การศึกษาโดยแยกระหว่างปริยัติกับปฏิบัติออกจากกันทำให้เกิดปัญหา การปฏิบัติจึงพิการเพราะเรียนแต่ไม่สามารถทำศีล สมาธิ ปัญญาให้เกิดขึ้นมาได้ เมื่อการปฏิบัติอาเพศ จึงไม่เกิดปฏิเวธ ที่จะทำให้เกิดอริยมรรค อริยผลได้ พระธรรมวินัยและศีลจึงมีความสำคัญในการปฏิบัติให้เกิดผล ฝึกให้มีสติสัมปชัญญะ ปัญหาต่างๆก็จะไม่เกิด ดังนั้นปริยัติกับปฏิบัติไม่ควรแยกกัน เหมือนธรรมวินัย คือวินัยที่เข้าถึงธรรมะ ทุกวันนี้วงการสงฆ์ค่อนข้างมีปัญหา อาณาจักรก็ต้องดึงคนในอาณาจักรที่เข้ามาในพุทธจักร และต้องแยก ศาสนบุคคล ศาสนวัตถุ ศาสนพิธี และศาสนธรรม ดังนั้นพระสงฆ์ทำผิด กับ โยมทำผิด ก็คือบุคลากรตกจากพระธรรมวินัย ไม่ใช่ศาสนาเสื่อม แต่เป็นคนผู้นั้นตกจากศาสนา จึงต้องฝึกตนเองให้เข้าถึงศีล สมาธิ ปัญญา เพื่อการเข้าถึงศาสนธรรม คนนั้นก็จะเป็นสมณะที่แท้จริงที่มีพระธรรมวินัยกำกับ
ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 กล่าวว่า สังคมโลกวันนี้เต็มไปด้วย อวิชชา กิเลส ตัณหา ราคะ โทสะ โมหะ เราต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของปัญหา ซึ่งไม่ใช่ปัญหาของคณะสงฆ์แต่เป็นปัญหาของพวกเราที่ไม่เข้าใจธรรมยังหลงในวัฏสงสาร และอกุศลจิต พุทธบริษัท 4 ไม่เข้าใจธรรม หลงในลาภสักการะ
ดร.สุภชัย กล่าวว่า การเสพเมถุนไม่ใช่อาชญากร แต่ต้นเหตุปัญหานี้มาจากเรื่องเงินเราต้องแก้เรื่องเงิน พุทธบริษัท 4 ต้องมองว่าอะไรถูกอะไรผิด เพราะอาณาจักรไม่ใช่แค่รัฐแต่เป็นประชาชนที่ต้องเลือกผู้นำที่มีธรรม ทุกวันนี้สลดใจที่เห็นชาวพุทธ 2 ประเทศ สวดมนต์เหมือนกันแต่รบกัน เราจึงต้องปฏิบัติเพื่อยกจิตเข้าสู่ความเป็นเป็นอริยบุคคล ถ้าเราปฏิบัติจริงไม่จำเป็นต้องมี พ.ร.บ.คณะสงฆ์ก็ได้ เพราะต้องปฏิบัติเพื่อเข้าสู่อริยบุคคล ทุกวันนี้มาจากลาภสักการะนำพาให้พระเป็นข่าวกับสีกาและผู้นำใช้ธรรมเป็นอำนาจ ไม่ใช้อำนาจเป็นธรรม
คุณวัชรารัศมิ์ สุนทรพนาเวช ศิลปินดารา ตัวแทนอุบาสิกา กล่าวถึงบทบาทผู้หญิงในพุทธศาสนา ว่า ถ้ามองสตรีเป็นตัวปัญหา เพราะเป็นสิ่งที่ยั่งยุพรหมจรรย์ ในความเป็นจริงสตรีคือครูคนแรกที่เป็นแม่ ที่ต้องคอยดูแลร่างกายและจิตใจของลูกในสมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้าไม่ได้มองว่ากิเลสอยู่ในผู้หญิงหรือชาย เพราะทุกคนมีกิเลสในใจอยู่ เราจึงต้องฝึกตน ทาน ศีล ภาวนา รู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ “ในหน้าที่อุบาสิกา ไม่มีหน้าที่เดินตามพระ แต่ต้องเดินตามพระธรรม” ถ้าศีลมีอยู่ปัญหาจะลดลง ทุกอย่างจึงอยู่ที่ตัวเราจะฝึกตน ดังนั้นอุบาสิกาคือแม่ที่จะสร้างบุตรที่ดีในการสืบสานพระพุทธศาสนาต่อไป และสตรีเป็นพลังเงียบที่ทรงพลังที่สุด
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม ตัวแทนอุบาสก กล่าวว่านอกจากปัญหาเรื่องพระสงฆ์ สตรีกับสตางค์ ต้องมีกระบวนการแก้ไขเชิงโครงสร้างพระสงฆ์ต้องเป็นให้ยากและสึกยาก ถ้ากระทำความผิดควรมีอัยการสงฆ์หรือศาลสงฆ์พิจารณาคดี เช่น การทำบัญชีผิดพลาด หรือกรณีสีกากอล์ฟ เมื่อพระสงฆ์มีเมตตามากๆกลับกลายเป็นราคะ จึงต้องมีกระบวนการพระธรรมวินัยทำงานร่วมกันต้องมีบทลงโทษคนที่มีส่วนร่วมหรือสมคบคิดทำให้พระสงฆ์กระทำความผิด ต้องปราชิก และต้องมีโทษที่หนักขึ้น พร้อมเสนอความจำเป็นในการจัดการเงินวัดต้องมีประสิทธิภาพ พระต้องไม่เป็นผู้สะสม ซึ่งจะทำให้คนเข้ามาแสวงหาประโยชน์น้อยลง