กิจกรรมโพธิคยา

2023

ร่วมประชุมหารือกรมการศาสนา

วัน 14 ธันวาคม พ.ศ.2566

ที่ห้องประชุมกรมการศาสนา ชั้น 2
Mr. Kesang Wangdi เลขานุการเอกเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทย พร้อมด้วย นายเกษม มูลจันทร์ รองเลขาธิการ และ ดร.อัจฉราวดี แมนชาติ ผู้ช่วยเลขาธิการ จากสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 เข้าพบ นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนาและคณะผู้บริหาร เพื่อหารือเรื่อง กรณีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุจากสาธารณรัฐอินเดียมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย

ในการหารือครั้งนี้ ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯ ได้เข้าร่วมรับฟังสรุปประเด็นข้อหารือจากกรุงพนมเปญ ทางช่องทาง ZOOM ด้วย

เข้ารับประทานเข็มเกียรติคุณและประกาศเกียรติคุณ

วัน 10 ธันวาคม พ.ศ.2566

ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯเข้ารับประทานเข็มเกียรติคุณและประกาศเกียรติคุณผู้ทำประโยชน์ต่อสังคม ประเทศชาติ พระพุทธศาสนา จาก เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในนาม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ในงานนี้มีผู้ร่วมแสดงความยินดีด้วยอย่างอบอุ่น นำโดย พระเทพวัชราจารย์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร รองเจ้าคณะภาค 5 ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สถาบันโพธิคยาฯ พระศรีวัชรวิสุทธิ์ รองอธิการบดีวิทยาเขตนครราชสีมา มจร รองประธานสถาบันโพธิคยาฯ พระเมธีวรญาณ คณบดีคณะพุทธศาสตร์ มจร. ประธานกรรมการ สถาบันโพธิคยาฯ พระนาคะทีปะ วัดไจทีเซา เมียนมาร์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ นายเกษม มูลจันทร์ รองเลขาธิการสถาบัน และท่านอื่นในภาคีเครือข่ายจากกลุ่มประเทศกลุ่มน้ำโขงด้วย

เฉลิมฉลองวันชาติไทย ที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ

วัน 1 ธันวาคม พ.ศ.2566

ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ #เลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯ ร่วมเฉลิมฉลองวันชาติไทย ที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ กัมพูชา โดยวันเฉลิมฉลองของชาติไทย ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม วันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ในงานนี้มีท่านทูตานุทูตและแขกผู้มีเกียรติมาร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียง

ต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

วัน 1 ธันวาคม พ.ศ.2566

ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯ ต้อนรับ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในวาระเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ หลังเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อกระชับความสัมพันธ์และเสริมสร้างความร่วมมือทางทหารระหว่างกระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศ ไทย-กัมพูชา

ร่วมแถลงข่าววัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์เฉลิมฉลองสมโภชครบรอบ 338 ปี

วัน 1 ธันวาคม พ.ศ.2566

นายเกษม_มูลจันทร์ รองเลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯ กรรมการอำนวยการจัดงานวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์เฉลิมฉลองสมโภชพระอารามหลวงครบรอบ 338 ปี ร่วมงานแถลงข่าว วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์เปิดม่านเฉลิมฉลองสมโภชพระอารามหลวงครบรอบ 338 ปีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 72 พรรษา ชมความงามวัดคู่วัง – ประวัติศาสตร์ล้ำค่าแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จัดแสดงแสงสี ดนตรีวัฒนธรรมไทย ตลาดวัฒนธรรมย้อนยุค เจริญจิตตภาวนา และ สวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ระหว่าง วันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ถึงวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2567 เวลา 07.00 – 22.00 น. ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

ในการแถลงข่าวนี้ ได้รับเมตตาจาก พระเดชพระคุณ พระธรรมวชิรมุนี , พระราชวชิราธิบดี และพระเมธีวรญาณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร พร้อมด้วยนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , นางลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม , นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) , นางฐนิวรรณ กุลมงคล กรรมการอำนวยการงานสมโภชพระอาราม 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ ร่วมแถลงข่าวงานเฉลิมฉลองสมโภชพระอารามหลวง วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ครบรอบ 338 ปี เทิดพระเกียรติสมเด็จพระบูรพกษัตริยาธิราชเจ้า และสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในฐานะที่ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 6 รอบ 72 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2567

อีกทั้งเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ด้านประวัติศาสตร์ และเผยแพร่ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร ให้เป็นที่รู้จักของประชาชนโดยทั่วไป และนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ โดยนำเสนอความงดงามของวัดคู่วัง ประวัติศาสตร์ล้ำค่าแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จัดแสดงแสงสี ดนตรีวัฒนธรรมไทย ตลาดวัฒนธรรมย้อนยุคต้นรัตนโกสินทร์ นิทรรศการ 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ และการเจริญจิตตภาวนา สวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

ร่วมประชุมธุรกิจระหว่างประเทศ

วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2566

ในโอกาสเยือนประเทศไทยของคณะผู้บริหารองค์กร ICCS จากประเทศอินเดีย ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯ พร้อมกับนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รองเลขาธิการ ได้รับโอกาสพบปะกระชับไมตรี กับ Dr Aashish Bhave, Director (Hon.) Cultural Studies, ICCS และ Mr. Suresh Soni, Senior leader of RSS & Patron International Centre for Cultural Studies (ICCS) เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแนวทางในการทำงานด้านพระพุทธศาสนา เพื่อสันติสุข ในงานนี้ Mr. Kesang Wangdi, First Secretary (Consular) สถานเอกอัครราชทูตอินเดียในประเทศ เข้าร่วมสนทนาด้วย

ร่วมประชุมธุรกิจระหว่างประเทศ

วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2566

ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการ สถาบันโพธิคยาฯ เดินทางเข้าร่วมประชุมธุรกิจระหว่างประเทศ ระหว่างวันที่ 23-25 พฤศจิกายน พ.ศ.2566 ซึ่งเป็นการประชุมที่จัดขึ้นในภายหลังพร้อมกับการประชุมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศในประเทศติมอร์เลสเต ภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของสำนักงานรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประสานงานด้านเศรษฐกิจ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม

ในส่วนธีมการประชุมครั้งนี้ คือ “Discovering Blue and Green Opportunities for Sustainable Investment” โดยประเทศติมอร์-เลสเต นำเสนอโอกาสในการลงทุน เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจในประเทศกระจายการลงทุนและดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เชื่อมต่อและสร้างความร่วมมือกับธุรกิจของติมอร์
ในโอกาสนี้ ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ ในฐานะเลขาธิการ สถาบันโพธิคยาฯ และรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยนครพัฒนา จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ยา ทิฟฟี่ ซาร่า ฯลฯ และประธานบริหารของโรงแรมเครือ “โภคีธารา” ได้แสดงวิสัยทัศน์การนำพุทธธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาใช้ในการดำเนินธุรกิจ ต้องมีความเป็นธรรมและรู้จักใช้ธรรมเป็นอำนาจ”นั่นคือ  การลงทุนเพื่อความยั่งยืนอย่างแท้จริง

หารือร่วมกับคณะผู้บริหารธนาคารกสิกรไทย

วันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2566

พระเมธีวรญาณ ประธานคณะกรรมการบริหาร สถาบันโพธิคยาฯ คณบดีคณะพุทธศาสตร์ มจร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร รักษาการเจ้าอาวาสวัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี รองเจ้าคณะภาค 10 เป็นประธานการประชุมหารือการจัดงาน “ธรรมยาตราพระบรมสารีริกธาตุมหานทีคงคาลุ่มน้ำโขง” ดร.วินัย วีระภุชงค์ ประธานมูลนิธิวีระภุชงค์ ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการพร้อมคณะกรรมบริหารสถาบันโพธิคยาฯ และคณะผู้บริหารธนาคารกสิกรไทย พร้อมผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมด้วย ณ ห้องประชุมชั้น 8 บริษัท ไทยนครพัฒนา จำกัด จังหวัดนนทบุรี

ประชุมหารือที่มหาธาตุวิทยาลัย วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์

วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2566 (บ่าย)

พระราชวชิราธิบดี เจ้าคณะเขตพระนคร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ และ พระเมธีวรญาณ คณบดี คณะพุทธศาสตร์ มจร ประธานกรรมการ สถาบันโพธิคยาฯ ร่วมเป็นประธานการประชุมหารือ เรื่อง ความคืบหน้าการจัดงานเฉลิมฉลองวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ครบ 338 ปี และเรื่อง ความคืบหน้าการดำเนินการงานธรรมยาตราพระบรมสารีริกธาตุ มหานทีคงคาลุ่มน้ำโขง พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระสารีริกธาตุ จากสาธารณรัฐอินเดีย และกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี

ในการนี้มี ดร.อภัย จันทนจุลกะ รองประธานสถาบันโพธิคยาฯ ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการ พร้อมคณะผู้บริหารสถาบันฯ และคุณฐนิวรรณ กุลมงคล คณะกรรมการอำนวยการจัดงานสมโภชพระอารามหลวง ครบ 338 ปี วัดมหาธาตุฯ เข้าร่วมประชุมด้วย

อายุวัฒนมงคล พระพรหมวชิราธิบดี 93 ปี

วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2566

พระเมธีวรญาณ ประธานกรรมการ สถาบันโพธิคยา ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯ พร้อมคณะ นำพานพุ่มดอกไม้ เข้าน้อมกราบมุทิตาสักการะ พระเดชพระคุณ หลวงพ่อพระพรหมวชิราธิบดี อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ นายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สถาบันโพธิคยาฯ เนื่องในโอกาสอายุวัฒนมงคล 93 ปี ที่ พระอุโบสถ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์

ในการนี้ ดร.สุภชัยฯ ได้กราบถวายรายงานความคืบหน้าสำคัญของงานธรรมยาตราพระบรมสารีริกธาตุมหานทีคงคาลุ่มน้ำโขง (Ganga-Mekong Holy Buddha Relics Dhammayatra) พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระสารีริกธาตุ จากอินเดีย และกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี งานยิ่งใหญ่ปลายปีนี้ ด้วย

การเสวนาในงานประชุมเชิงปฏิบัติการ

วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ.2566

ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการ ได้รับเชิญไปเสวนาในหัวข้อ We are different because of opportunity ในการประชุมแบ่งปันความรู้เชิงปฏิบัติการที่จัดขึ้นที่ Kampuchea Phare Circus ในเมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ร่วมกับวิทยากร H.E. Veng Serey Vudh ประธานคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย Pannasastra แห่งกัมพูชา คุณฮวด ดารา General Director กิจการเพื่อสังคม Phare, Kampuchea Phare Circus และ Kampuchea Phare Creative Studio และวิทยากรรับเชิญคนสุดท้ายคือ Mr. Mean Luch (Lux) กรรมการผู้จัดการ บริษัท PEPY จำกัด

การเสวนาในงานประชุมเชิงปฏิบัติการจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ: We are different because of opportunity
เสวนาผ่านมุมมองและประสบการณ์ความสำเร็จจากท่านวิทยากร เพื่อปูทางความรู้ให้แก่เยาวชนคนหนุ่มสาว
ในฐานะนักธุรกิจผู้เชื่อมั่นในคุณธรรม ดร.สุภชัยฯ ได้แบ่งปันสาระสำคัญแห่งชีวิต คือ การนำหลักพุทธธรรมมาปรับใช้กับชีวิต การมีสติปัญญาจะทำให้เราเรียนรู้ว่าปัญหาที่เข้ามาในชีวิตไม่ใช่เรื่องใหญ่ โดยเฉพาะการเกิดมาในครอบครัวที่ขัดสนขาดแคลน ขอจงตระหนักในโอกาสล้ำค่าที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา ซึ่งบรรจุความรู้สำคัญเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินชีวิตรอบด้าน รวมทั้งหลักการแก้ปัญหาด้วยอริยมรรค

คุณ Veng Serey Vuth กล่าวว่า จงเรียนรู้ที่จะใช้โอกาสและเวลาให้เกิดประโยชน์ ทำสิ่งที่จำเป็นและถูกต้องที่สุดในชีวิตประจำวัน ที่สำคัญคือการสร้างตนเองให้มีนิสัยที่ดี การมีนิสัยที่ดีจะนำพาเราไปสู่การพัฒนาตนเองและมีอนาคตที่สดใส โอกาสมีอยู่ทุกที่ ไม่ว่าใครจะมีสีผิว เพศ หรือมาจากไหน สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้ที่จะคว้าโอกาสที่มี

คุณฮวด ดารา กล่าวถึงพลังแห่งศิลปะที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนให้ดีขึ้น เขาแบ่งปันเรื่องราวของ Phase Circus Cambodia ซึ่งให้การฝึกอบรมและโอกาสแก่คนหนุ่มสาวที่มีภูมิหลังที่ยากลำบากและอื่นๆ อีกมากมาย อยากให้ทุกคนรู้จักหาความสุขให้ตัวเองและพ้นจากความทุกข์โดยยึดหลักธรรมในพระพุทธศาสนา

ในงานนี้มีผู้เข้าร่วมงานจำนวนหลายร้อยคน ได้แสดงความสนใจในความรู้ที่ได้รับและกล่าวขอบคุณต่อวิทยากรทุกท่านที่เสียสละเวลามาแบ่งปันความรู้ด้วยจิตเมตตา

ร่วมงานสัมมนาเตรียมความพร้อมงานเผยแผ่แดนพุทธภูมิ

วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ.2566

ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯ ร่วมงานสัมมนาเตรียมความพร้อมงานเผยแผ่แดนพุทธภูมิ ประจำปีพุทธศักราช 2566 บรรยายพิเศษหัวข้อ อุดมการณ์เผยแผ่พระพุทธศาสนา สู่งานธรรมยาตราพระบรมสารีริกธาตุ มหานทีคงคาลุ่มน้ำโขง ที่สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 วัดไทยพุทธคยา รัฐพิหาร สาธารณรัฐอินเดีย โดยมีผู้ร่วมฟังบรรยายเป็นคณะพระธรรมทูต คณะพระสงฆ์ไทยจากวัดต่างๆ ทั่วพุทธคยา และ พาราณสี และกุสินารา รวมถึงผู้ที่มีความสนใจในเรื่องของพระสงฆ์ไทยในอินเดีย ที่ชมผ่านโปรแกรม ZOOM

นอกจากนี้ ยังได้รับเมตตาจากพระเดชพระคุณ #พระธรรมโพธิวงศ์ เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา หัวหน้าพระธรรมทูต สายประเทศอินเดีย-เนปาล ประธานสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 และ พระเดชพระคุณ พระวิเทศวัชราจารย์ เลขานุการหัวหน้าพระธรรมทูตสายอินเดีย-เนปาล กรรมการบริหาร สถาบันโพธิคยาวิชชชาลัย 980 ร่วมรับฟังตลอดการบรรยาย

เลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯเลี้ยงต้อนรับสื่อมวลชน

วันอังคารที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.2566

ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 และในนามกรรมการผู้จัดการสถานทีโทรทัศน์ช่อง 5 กัมพูชา และโรงแรมโซฟิเทล พนมเปญ โภคีธรา และ Mr. Chevet Charles-Henri, General Manager โรงแรมโซฟิเทล พนมเปญ โภคีธรา เป็นเจ้าภาพเลี้ยงต้อนรับคณะสื่อมวลไทยในโครงการศึกษาดูงานราชอาณาจักรกัมพูชา นำคณะโดย นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ประธานสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ นายกวี จงกิจถาวร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ และนายดำฤทธิ์ วิริยะกุล ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์และสมาชิกสัมพันธ์ สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ โดยจัดขึ้นระหว่างวันจันทร์ที่ 2 – วันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2566 โดยสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ และมูลนิธิไทย

ในงานนี้ เลขาธิการสถาบันฯ ได้กล่าวถึง การนำเสนอข่าวงานธรรมยาตรา 3 แผ่นดิน (ครั้งที่ 3) มหานทีคงคา-ลุ่มน้ำโขง (อินเดีย ไทย กัมพูชา) : พิธีสักการะพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมพระอรหันตธาตุ พระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ จากชมพูทวีป งานยิ่งใหญ่ของชาวพุทธที่กำลังจะจัดขึ้นทั้งประเทศไทยและกัมพูชาในปลายปีนี้

นอกจากนี้ยังได้มีการพูดคุยถึงความร่วมมือกันทำงานระหว่างสื่อมวลชนประเทศไทยและกัมพูชา รวมถึงการนำเสนอข่าวสารด้านการท่องเที่ยวด้วย

เลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯ ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรี

วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ.2566

ในโอกาสเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการของ นายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯ ได้รับโอกาสกราบเรียนเรื่อง การเตรียมการจัดงานธรรมยาตรามหานทีคงคา-ลุ่มน้ำโขง: สักการะพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมพระอรหันตธาตุพระอัครสาวก พระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ ซึ่งเป็นงานที่มาจากความร่วมมือของรัฐบาลทั้ง 3 ประเทศ คือ อินเดีย ไทย และกัมพูชา โดยมีสถาบันโพธิคยาฯ เป็นผู้ดำเนินการประสานงานอย่างใกล้ชิด ทั้งมีกำหนดจัดงานขึ้นราวปลายปีนี้ โดยผู้แทนรัฐบาลอินเดียจะเป็นผู้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินเดีย ณ กรุงนิวเดลี พร้อม พระอรหันตธาตุพระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ จากสถูปสาญจี อินเดีย มาประดิษฐานให้ประชาชนได้ถวายสักการะที่ประเทศไทยเป็นลำดับแรก จากนั้นจะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมพระอรหันตธาตุพระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ ไปยังราชอาณาจักรกัมพูชา โดยรายละเอียดอยู่ระหว่างเตรียมการ เพื่อนำไปสู่แนวทางปฏิบัติการรับเสด็จอย่างสมพระบารมี

ในการนี้ เลขาธิการสถาบันฯได้เสนอแนวคิดเพิ่มเติมต่อท่านนายกรัฐมนตรีฯ ถึงเรื่องการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมพระอรหันตธาตุพระอัครสาวกฯ ครั้งนี้ จะเป็นโอกาสดีงามเป็นมงคลแด่พี่น้องชาวพุทธไทยอย่างยิ่ง ถ้าได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมพระอรหันตธาตุพระอัครสาวกฯไปทุกภาคของประเทศ ให้ประชาชนได้กราบสักการะเพื่อน้อมระลึกถึงพระธรรมคำสอน ได้เจริญจิตภาวนา ปฏิบัติบูชา อันเป็นการบูชาสูงสุดในทางพระพุทธศาสนาน้อมนำชีวิตสู่พระนิพพาน

สุดท้ายเลขาธิการฯ มอบพระพุทธเมตตา และหนังสือธรรมยาตรา แด่ท่านนายกรัฐมนตรีฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล

เลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯ ร่วมหารือรัฐมนตรีช่วยกระทรวงต่างประเทศฯ กัมพูชา

วันพุธที่ 27 กันยายน พ.ศ.2566

ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 สนทนาหารือกับ ดร.ฆี โสวัณรัตนา (H.E. Dr.KHY Sovanratana) รัฐมนตรีช่วย กระทรวงต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศประเทศกัมพูชา โดยมีประเด็นสำคัญเรื่อง การเตรียมงานธรรมยาตราครั้งที่ 3 มหานทีคงคา-ลุ่มน้ำโขง เพื่อการเตรียมความพร้อมในการถวายการต้อนรับพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมพระพระอรหันตธาตุพระอัครสาวก พระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ ซึ่งเป็นงานที่มาจากความร่วมมือของรัฐบาลทั้ง 3 ประเทศ คือ อินเดีย ไทย และกัมพูชา โดยมีสถาบันโพธิคยาฯ เป็นผู้ดำเนินการประสานงานอย่างใกล้ชิด

กราบขอพรทวยเทพ ณ เขาพนมกุเลน

วันที่ 26 กันยายน พ.ศ.2566

เนื่องในโอกาสเดินทางไปเมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการ สถาบันโพธิคยาฯ ได้กราบขอพรพระและทวยเทพที่เขาพนมกุเลน ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ อดีตเมืองหลวงอาณาจักรกัมพูชา 1000 กว่าปีก่อน เพื่อเตรียมต้อนรับการเสด็จของพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมพระอรหันตธาตุ พระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ อย่างยิ่งใหญ่สมพระบารมีในปลายปีนี้

สำหรับการเตรียมงานยิ่งใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ชาวพุทธทั้ง 3 ประเทศ ในการเตรียมพิธีการอัญเชิญพระบรมสารีสารีริกธาตุ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินเดีย ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย พร้อมพระอรหันตธาตุ พระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ จากสถูปสาญจี อินเดีย มาประดิษฐานชั่วคราวที่ประเทศไทยเป็นลำดับแรก จากนั้นผู้แทนรัฐบาลอินเดียจะอัญเชิญต่อไปยังกัมพูชา และอัญเชิญกลับประเทศอินเดีย โดยงานนี้เป็นความร่วมมือจากรัฐบาลทั้ง 3 ประเทศ คือ อินเดีย ไทย และกัมพูชา มีสถาบันโพธิคยาฯ ร่วมทำงานประสานงานอย่างใกล้ชิด

ในการนี้ ดร.สุภชัยฯ ได้วางแนวคิดการทำงานกับคณะทำงานสถาบันฯโดยให้วางใจไว้ว่า งานครั้งนี้เสมือนดังองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงวางพระทัยให้สถาบันโพธิคยาฯมาเป็นคณะเตรียมงานล่วงหน้าในการถวายการรับเสด็จ ซึ่งชาวพุทธรับรู้ว่า ทุกครั้งของการเสด็จขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เต็มเปี่ยมไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณและมีเป้าหมายเพื่อโปรดไวนยสัตย์ให้รู้แจ้งเข้าถึงธรรม ฉะนั้นทิศทางการเตรียมงานที่สถาบันโพธิคยาฯ จึงวางแผนสู่เป้าหมายโดยใช้โอกาสอันหาได้ยากยิ่งนี้ ให้ประชาชนได้รับความรู้และเข้าถึงแก่นพุทธธรรมด้วย

เยือนมุกดาหาร

วันพุธที่ 20 – 21 กันยายน พ.ศ.2566

คณะผู้บริหารสถาบันโพธิคยาฯ นำโดย พระเมธีวรญาณ (สายเพชร วชิรเวที) ประธานกรรมการ ดร.อภัย จันทนจุลกะ รองประธาน และประธานกรรมการรางวัลโพธิคยานาคาธิบดี พร้อมด้วย ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการ นายเกษม มูลจันทร์ รองเลขาธิการ และนายสุรพล มณีพงษ์ รองเลขาธิการ ได้เดินทางไปจังหวัดมุกดาหาร เพื่อเยี่ยมคารวะและกราบขอบพระคุณในความเมตตาของเจ้าคณะจังหวัดมุกดาหารและคณะสงฆ์จังหวัดมุกดาหาร และแสดงความขอบคุณแด่ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารและคณะข้าราชการจังหวัดมุกดาหาร ที่ให้การสนับสนุนในการจัดงานพิธีมอบรางวัลโพธิคยานาคาธิบดี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา ณ สวนสาธารณะองค์พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร จนงานลุล่วงสำเร็จด้วยดี นอกจากนี้ได้นำเรียนถึงงานยิ่งใหญ่สำคัญของประวัติศาสตร์ชาวพุทธที่สถาบันโพธิฯได้รับโอกาสทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาล 3 ประเทศ อินเดีย ไทย และกัมพูชา ในการจัดพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเดลลี อินเดีย พร้อมพระอรหันตธาตุ พระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ จากสถูปสาญจี อินเดีย เพื่อให้ประชาชน ได้สักการะพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมพระอรหันตธาตุ พระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ โดยอัญเชิญเสด็จไปทั้ง 2 ประเทศ ไทย และ กัมพูชา โดยมีหมายกำหนดการจัดงานในปลายปีนี้

สำหรับรายละเอียดการเดินทาง มีดังนี้

บ่ายวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2566

คณะผู้บริหารสถาบันโพธิคยาฯเดินทางไปยัง #วัดศรีบุญเรือง ถนนสำราญชายโขง จังหวัดมุกดาหาร เพื่อกราบคารวะและกราบขอบพระคุณในความเมตตาของพระเดชพระคุณ #พระราชรัตนโมลี (สมยง กตปุญฺโญ) #เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง ที่มอบให้สถาบันโพธิคยาฯ เสมอมา สำหรับวัดศรีบุญเรือนแห่งนี้ จากหลักฐานของคนเฒ่าคนแก่เล่าสืบต่อกันมา กล่าวไว้ว่าเป็นวัดที่ชาวบ้านสร้างขึ้นมาในยุคเดียวกับการสร้างเมืองมุกดาหาร (ประมาณ พ.ศ. 2310-2317) เพื่อให้พระธุดงค์ออกจาริกแสวงบุญได้พักอาศัย ในสมัยนั้นพระสงฆ์มีจำนวนน้อย จึงไม่มีพระสงฆ์อยู่จำวัด วัดแห่งนี้จึงเป็นที่พักอาศัยของพระธุดงค์มาโดยตลอด

เช้าวันที่ 21 กันยายน พ.ศ.2566

คณะผู้บริหารสถาบันฯได้เดินทางไป วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ เพื่อกราบขอบพระคุณ พระเดชพระคุณพระวิทูรวชิรโมลี เจ้าอาวาสวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ รองเจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วย พระมหาอำนาจ ชินทตฺโต เจ้าคณะตำบลนาสีนวน เขต 2 วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ที่ท่านเมตตาสนับสนุนงานประกาศโองการพญานาค งานสรุปโครงการวิจัย”อิทธิพลความเชื่อเรื่องพญานาคที่มีต่อพระพุทธศาสนาในประเทศไทย” และงานพิธีมอบรางวัลโพธิคยานาคาธิบดี

ในการนี้ คณะได้กล่าวแสดงความขอบคุณกับ นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ว่าที่ร้อยตรีเอกวัฒนา คงคาน้อย นายอำเภอหว้านใหญ่ กับคณะข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ที่วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ด้วย
จากนั้นคณะสถาบันโพธิคยาฯ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์สินค้าจากชุมชน และสินค้าพื้นเมืองที่ระลึกจากจังหวัดมุกดาหาร จำหน่ายผ้าไทย ผ้าพื้นถิ่น ที่บ้านมุกดาแกลลอรี่ จังหวัดมุกดาหาร ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพ

สักการะ พระธาตุอิงฮัง ที่สปป.ลาว

วันพุธที่ 20 กันยายน พ.ศ.2566

พระเมธีวรญาณ คณบดีคณะพุทธศาสตร์ มจร ประธานกรรมการ สถาบันฯ พร้อมด้วย ดร.อภัย จันทนจุลกะ รองประธาน สถาบันฯ ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการ นายเกษม มูลจันทร์ รองเลขาธิการ นายสุรพล มณีพงษ์ รองเลขาธิการ เดินทางไปศึกษาประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาและสักการะ พระธาตุอิงฮังหรือธาตุอิงฮัง เป็นพระธาตุสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของชาวสะหวันนะเขต สปป.ลาว

ข้อมูลจาก พระเดชพระคุณ พระเมธีวรญาณ บันทึกไว้ว่า พระธาตุอิงฮังหรือธาตุอิงฮัง สร้างขึ้นราว พ.ศ. ๔๐๐ ในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูร ซึ่งต่อมาได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานไว้ภายใน ด้านบนของพระธาตุเป็นทองคำแท้หนักเกือบครึ่งกิโลกรัม องค์พระธาตุมีความสูง ๒๕ เมตร ตัวประตูทางเข้าทั้ง ๔ ด้าน มีภาพแกะสลักแนวกามาวิจิตรของฮินดูเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

คำว่าอิงฮังมาจากคำว่า “พิงรัง” หรือพิงต้นรัง ซึ่งเมื่อค้นประวัติของพระธาตุพนมพบว่ามีส่วนสัมพันธ์กัน ตามตำนานกล่าวว่าสมัยหนึ่งในปัจฉิมโพธิกาล พระพุทธเจ้าพร้อมทั้งพระอานนท์ได้เสด็จมาที่พระบาทเวินปลา ซึ่งอยู่เหนือเมืองนครพนมปัจจุบัน ได้ทรงพยากรณ์เมืองมรุกขนคร (นครพนม) และได้ประทับพักแรมที่ภูกำพร้าหนึ่งคืน รุ่งขึ้นเสด็จข้ามแม่น้ำโขงไปบิณฑบาตที่เมืองศรีโคตรบูร พักอยู่ที่ร่มต้นรังต้นหนึ่ง เมืองศรีโคตรบูรนั้นต่อมาได้มีการสร้างเป็นธาตุกู่ในสมัยพระเจ้าสุมิตราช ภายหลังได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนกระดูกสันหลังมาประดิษฐานไว้ในกู่ธาตุ หรือพระธาตุอิงฮัง

ในโอกาสนี้ ดร.สุภชัยฯ ได้ขอพรพระธาตุอิงฮังให้การสร้างองค์พญานาคศรีวีระภุชงคงคานาคาธิบดี ที่วัดโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานีสำเร็จลุล่วงตามความศรัทธาของครอบครัววีระภุชงค์ด้วย

เตรียมสร้าง “องค์ศรีวีระภุชงคงคาธิบดีนาคราช”

เช้าวันพุธที่ 20 กันยายน พ.ศ.2566

พระเมธีวรญาณ คณบดีคณะพุทธศาสตร์ มจร ประธานกรรมการ สถาบันฯ พร้อมด้วย ดร.อภัย จันทนจุลกะ รองประธาน สถาบันฯ ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการ นายเกษม มูลจันทร์ รองเลขาธิการ นายสุรพล มณีพงษ์ รองเลขาธิการ เข้าพบพระสมุห์คะนอง ปภสฺสโร เจ้าอาวาสวัดโขงเจียม รองเจ้าคณะอำเภอโขงเจียม พร้อมด้วย นายอุดมศักดิ์ นวลศิริ นายอำเภอโขงเจียม นายกิตติบูลย์ คูณทวี กำนันตำบลโขง และอาจารย์ปื๊ด ช่างปั้นพญานาคมือทอง ร่วมหารือเรื่องเตรียมการสร้าง “องค์ศรีวีระภุชงคงคาธิบดีนาคราช” ที่วัดโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี

ประชุมเตรียมการพิธีรับเสด็จพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมพระอรหันตธาตุ พระอัครสาวกฯ

วันที่ 14 กันยายน พ.ศ.2566

ฯพณฯ นาค ซัมโบ (H.E Dr. Neak Sambo) #รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงธรรมการและศาสนา ราชอาณาจักรกัมพูชา และ ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ #เลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯ พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่จากกระทรวงธรรมการและศาสนา คณะผู้บริหารจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 กัมพูชา ร่วมประชุมวางแผนปฏิบัติการจัดพิธีรับเสด็จพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมพระอรหันตธาตุ พระอัครสาวก พระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ

เข้าเยี่ยมคารวะหารือกับรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม

วันพุธที่ 13 กันยายน พ.ศ.2566

เนื่องในโอกาสแสดงความยินดีแด่ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม ในวาระรับตำแหน่งใหม่นี้ ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯ ได้หารือถึง การเตรียมการถวายการต้อนรับการเสด็จเยือนของพระบรมสารีริกธาตุฯ โดยมีผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือ นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายชัยพล สุขเอี่ยม  อธิบดีกรมการศาสนา ดร.สุนีย์ ศรไชยธนะสุข นายเกษม มูลจันทร์ รองเลขาธิการสถาบันฯ นางสาวทิพย์วรรณ วีระภุชงค์ กรรมการบริหารสถาบัน ดร.อัจฉราวดี แมนชาติ ผู้ช่วยเลขาธิการ

สำหรับการเตรียมการพิธีถวายการต้อนรับการเสด็จของพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมพระอรหันตธาตุพระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะจากชมพูทวีปนี้ ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากรัฐบาลของสาธารณรัฐอินเดีย เพื่อให้ชาวพุทธได้กราบสักการะ และเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ดุจดังเป็นการเสด็จฯ ขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อประทานพรโปรดพุทธศาสนิกชน

การเสด็จฯ ของพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมพระอรหันตธาตุพระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ ในครั้งนี้ พระบรมสารีริกธาตุ พร้อมพระอรหันตธาตุพระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ จะมาประดิษฐานให้ประชาชนได้ถวายสักการะทีประเทศไทยเป็นลำดับแรก จากนั้นจะอัญเชิญต่อไปยังราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมเปิดโอกาสให้พุทธบริษัทสามารถดำเนินกิจกรรมทางศาสนาร่วมกัน สร้างเครือข่ายเชื่อมโยงพุทธกัลยาณมิตรให้เกิดขึ้นเพื่อสืบทอดความรัก ความสามัคคี และสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในมวลมนุษย์มั่นคงสืบไป

สุดท้ายมีพิธีมอบของที่ระลึก โดยดร.สุภชัยฯ ได้มอบพระพุทธเมตตา และหนังสือธรรมยาตรา ๕ แผ่นดิน แด่ท่านรัฐมนตรีฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล และถ่ายภาพร่วมกันอย่างอบอุ่น

เข้าเยี่ยมคารวะและหารือกับรัฐมนตรีกระทรวงธรรมการและศาสนาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา

วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ.2566

ฯพณฯ ชาย โบริน (H.E.Chay Borin) รัฐมนตรีกระทรวงธรรมการและศาสนาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา (Ministry of Cult and Religion) ให้การต้อนรับ นายเชิดเกียรติ อัตถากร เอกอัครราชไทยประจำราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมด้วย ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯ ในการเข้าเยี่ยมคารวะและหารือเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านประเพณีและศาสนา พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับฯพณฯ ชาย เนื่องในโอกาสรับตำแหน่งใหม่

ในการนี้ มีการหารือตอนหนึ่งเกี่ยวกับเรื่อง การเตรียมการจัดงานธรรมยาตรา ครั้งที่ ๓ มหานทีคงคา-ลุ่มน้ำโขง ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นราวปลายปีนี้ โดยผู้แทนรัฐบาลอินเดียจะเป็นผู้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พร้อม พระอรหันตธาตุพระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินเดีย ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานให้ประชาชนได้ถวายสักการะทีประเทศไทยเป็นลำดับแรก จากนั้นจะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมพระอรหันตธาตุพระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ ไปยังราชอาณาจักรกัมพูชา โดยรายละเอียดอยู่ระหว่างเตรียมการ เพื่อนำไปสู่แนวทางปฏิบัติการรับเสด็จอย่างสมพระบารมี

การหารือจบลงด้วยบรรยากาศรื่นรมย์ สุดท้ายมีพิธีมอบของที่ระลึก โดยดร.สุภชัยฯ ได้มอบพระพุทธเมตตา แด่ท่านรัฐมนตรีฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล และถ่ายภาพร่วมกัน

กราบเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุทธชัยมุนีเขมสรณ์

วันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม พ.ศ.2566

ที่วัดโบตุมวดีราชวราราม กรุงพนมเปญ กัมพูชา สมเด็จพระพุทธชัยมุนีเขมสรณ์ (Samdech Preah Puth Cheymoni Khem Sorn), ประธานสำนักเลขาธิการเถรสมาคมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และเจ้าชายแห่งพนมเปญ มอบโอกาสให้ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯ H.E Dr. Neak Sambo, Secretary of State, Ministry of Cults and Religions.รัฐมนตรีช่วยกระทรวงธรรมการ และศาสนา ประเทศกัมพูชา พร้อมด้วย Mr. Houng Daramony กรรมการผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 กัมพูชา เข้ากราบถวายความเคารพ และบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันพระ

โอกาสนี้ดร.สุภชัยฯ ถวายรายงานความคืบหน้าการเตรียมงานธรรมยาตราครั้งที่ 3 มหานทีคงคา-ลุ่มน้ำโขง สักการะพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมด้วยพระอรหันตธาตุพระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะจากชมพูทวีป มายัง 2 ประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ประกอบด้วยประเทศไทย และกัมพูชา ตามคำอาราธนาจากรัฐบาลไทย เพื่อให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศได้กราบสักการะ และเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญในการเสด็จฯขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ประทานพรโปรดพุทธศาสนิกชนใน 2 ประเทศ หลังจากว่างเว้นไปเกือบ 1 ศตวรรษ ทีไม่เคยเสด็จมายังอนุภูมิภาคนี้

สำหรับงานธรรมยาตราฯครั้งนี้จะจัดขึ้นราวปลายปีนี้ โดยผู้แทนรัฐบาลอินเดียจะเป็นผู้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พร้อม พระอรหันตธาตุพระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินเดีย ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานให้ประชาชนได้ถวายสักการะทีประเทศไทยเป็นลำดับแรก จากนั้นจะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมพระอรหันตธาตุพระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ ไปยังราชอาณาจักรกัมพูชา โดยกาหนดการและรายละเอียดอยู่ระหว่างการหารือเตรียมการ เพื่อนำไปสู่แนวทางปฏิบัติการรับเสด็จอย่างสมพระบารมี

ก่อนกราบลาเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุทธชัยมุนีเขมสรณ์ ดร.สุภชัยฯ นำคณะถวายรูปปั้นพระบรมครูแพทย์ชีวกโกมารภัจจ์ หนังสือธรรมยาตรา พร้อมเครื่องสังฆทาน เพื่อสั่งสมอริยทรัพย์ และกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย

จัดทำหลักสูตรพุทโธปนายิกศาสตร์ (ผู้นำที่มั่นคงในวิถีพุทธ)

วันพุธที่ 23 สิงหาคม พ.ศ 2566

ที่ห้องประชุมคณะพุทธศาสตร์ มจร. วังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้บริหารคณะพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย นำโดยพระเดชพระคุณ พระเมธีวรญาณ, ผศ.ดร. คณบดีคณะพุทธศาสตร์ และ ผู้บริหารสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 นำโดย ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรพุทโธปนายิกศาสตร์ และรองเลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯประชุมปรึกษาหารือร่วมกัน เพื่อสร้างความร่วมมือในด้านวิชาการ การจัดทำหลักสูตรวุฒิบัตรอบรมระยะสั้น หลักสูตรพุทโธปนายิกศาสตร์ (ผู้นำที่มั่นคงในวิถีพุทธ) โดยมุ่งเป้าหมายสร้างเสริมความรู้ด้านการเป็นผู้นำที่มีความมั่นคงในวิถีพุทธ เพื่อนำความรู้ไปประยุกต์ใช้พัฒนาตนเอง บริหารจัดการองค์กร สร้างสังคมที่มีคุณธรรม และประเทศชาติให้บรรลุผลสำเร็จโดยธรรม กล่าวคือ สร้างภาวะความเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาการบริหารงานทั้ง 4 ด้าน คือ กายภาวนา สีลภาวนา จิตภาวนา และปัญญาภาวนา และสามารถนำพุทธวิธีไปพัฒนาตนเองและองค์กร หรือสถาบันของตนสู่ความเป็นอริยชนได้ รวมทั้งสร้างเครือข่ายของผู้นำองค์กรวิถีพุทธ เพื่อให้มนุษยชาติสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนา

หลักสูตรพุทโธปนายิกศาสตร์ เตรียมเปิดอบรมแก่ ผู้ที่ทำงานอยู่ในระดับผู้นำและผู้บริหาร หรือบุคคลที่มีเป้าหมายก้าวสู่การเป็นผู้นำและผู้บริหาร หรือบุคคลที่มีบทบาทผู้นำทางสังคม

โปรดติดตามการคืบหน้าการเปิดรับสมัครผู้เข้าอบรมทางช่องทางนี้

ในการนี้มีคณะผู้บริหารทั้ง 2 ฝ่าย เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ พระครูสิริรัตนบัณฑิต, ผศ.ดร. รองคณบดีฝ่ายวิชาการ รองศาสตราจารย์ ดร. ณัทธีร์ ศรีดี รองคณบดีฝ่ายบริหาร พระมหาจรูญ กิตฺติปญฺโญ, ดร. ผู้อำนวยการโครงการหลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต ภาคภาษาอังกฤษ พระมหายุทธนา นรเชฏโฐ,ผศ.ดร. ผู้อำนวยการหลักสูตรพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพระไตรปิฎกศึกษา พระมหาบุญเกิด ปญญาปวุฑฒี,ผศ.ดร.หัวหน้าภาควิชาบาลีสันสกฤต พระมหาขวัญชัย กิตติเมธี,ผศ.ดร. หัวหน้าภาควิชาศาสนาและปรัชญา รศ.ดร. กฤต ศรียะอาจ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริการสังคม ผศ.ดร. คงสฤษฎ์ แพงทรัพย์ นายเกษม มูลจันทร์ รองประธานกรรมการและรองเลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯ และ ดร.อัจฉราวดี แมนชาติ ผู้ช่วยเลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯ

ถอดหลักธรรม : การฝึกเจริญสติยกระดับจิตใจสู่ความสุข

วันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ.2566

ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิฯ ในนามกรรมการผู้จัดการ โรงแรมโซฟิเทล อังกอร์ โภคคีธรา กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ท เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา จัดอบรมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่โรงแรมโซฟิเทล อังกอร์ โภคคีธราฯ ถึงความสำคัญในการฝึกเจริญจิตภาวนาเพิ่มกำลังสติ เพื่อการพัฒนาจิตใจ ชำระล้างจิตใจอารมณ์ขุ่นมัวต่าง ๆ ซึ่งเป็นเส้นทางสู่ปัญญา อันมีเป้าหมายไปสู่พระนิพพาน ทำให้จิตใจพ้นความทุกข์ทั้งหมด

ดร.สุภชัยฯ เชิญคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ได้ลองฝึกปฏิบัติด้วย โดยเริ่มปูพื้นฐานแนวคิดการฝึกปฏิบัติตามแนวทางพระพุทธศาสนาก่อน เริ่มตั้งแต่ท่านั่งขัดสมาธิ อันเป็นท่านั่งที่จัดว่าเป็นท่าที่ทำให้โครงร่างกายอยู่ในจุดสมดุล องอาจ จากนั้นสอนวิธีบริกรรม ซึ่งโดยส่วนตัวดร.สุภชัยฯ ใช้คำบริกรรมสอดคล้องกับลมหายใจ …หายใจเข้า “พุท” หายใจออก “โธ” ทั้งนี้เน้นการปฏิบัติแบบลืมตา รับรู้สิ่งเข้ามากระทบ ตา หู ลิ้น กาย ใจ เพราะตามความเป็นจริง เราต่างใช้ชีวิตลืมตา ถ้าเราปฏิบัติบนความเคลื่อนไหวได้ การเจริญสติจะเป็นประโยชน์ต่อตนเอง และต่อผู้อื่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนร่วมงาน ยิ่งถ้าเป็นผู้บริหารก็จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใต้บังคับบัญชา หน่วยงาน องค์กร ที่ตนเองบริหารอยู่ นอกจากนั้นการเจริญสติต้องตัด นิวรณ์ 5 ให้ได้ อาทิ กามฉันทะ ความอยากมีอยากเป็น วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัย คือ เราต้องไม่ลังเลสงสัยในการปฏิบัติ

การฝึกปฏิบัติในเบื้องต้น เราควรปฏิบัติให้ภาวะจิตเกิดสุข ถ้าเกิดภาวะจิตเป็นทุกข์ไม่ควรจะปฏิบัติต่อไม่เกิดประโยชน์ ควรหยุดไปทำสิ่งอื่นก่อน และการฝึกปฏิบัตินั้น อย่างน้อยควรฝึกจนเข้าถึง ฌาน เพ่งอารมณ์จนใจแน่วแน่ เข้าถึงภาวะจิตสุขสงบประณีต ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าถึง ปฐมฌาน แต่ต้องมีการฝึกปฏิบัติสม่ำเสมอต่อเนื่อง คือ ต้องฝึกรับรู้ลมหายใจเป็นฐานไว้ ซึ่งเป็น 1 ใน 40 กรรมฐานกอง

ปฐมฌาน มีองค์ 5 คือ วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา

ทุติยฌาน มีองค์ 3 ปีติ สุข เอกัคคตา

ตติยฌาน มีองค์ 2 สุข เอกัคคตา

จตุตถฌาน มีองค์ 2 อุเบกขา เอกัคคตา

ดร.สุภชัยฯ สรุปถึงหลักการที่ตนเองได้ใช้ฝึกปฏิบัติบนเส้นทางอริยมรรคนั้น คือ

1.นึกถึงความตาย เจริญมรณานุสติ

2.ใช้พระนิพพานเป็นเป้าหมาย ๓.การฝึกทำความเข้าใจไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

สำหรับหลักที่เกื้อหนุนในการฝึกเจริญจิตภาวนาเพิ่มกำลังสติให้สำเร็จ ดร.สุภชัยฯ ได้อธิบายถึงหลักธรรม อินทรีย์ 5 หัวข้อธรรมสำคัญในการปฏิบัติ ได้แก่ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และ ปัญญา

อย่างแรก ศรัทธา ต้องมีความเชื่อ มีใจโน้มรับ ซึ่งจะทำให้จิตใจมีพลัง มีกำลัง ในการทำกิจต่างๆ แต่อย่างไรก็ดี ต้องมี ปัญญาควบคู่ จึงทำให้มีเหตุมีผล รู้ความถูกต้อง ความสมควร ความเหมาะสม ดังนั้นมีศรัทธาต้องมีปัญญาด้วย และปัญญาก็ไม่ควรอยู่เดี่ยวๆ เพราะอาจก่อปัญหาได้ นอกจากนั้นจะทำการสำเร็จได้ก็ต้องมี วิริยะ คือความเพียร โดยมี สมาธิ ทำให้สงบและมั่นคงจนเกิดความพอดีขึ้น และมี สติ เป็นตัวกลางคอยดูคอยระวัง นี่คือกระบวนการทำงานของอินทรีย์ 5 โดยย่อ ถ้าใครมีอินทรีย์แก่กล้าสม่ำเสมอสมดุลกัน ก็จะทำให้การฝึกเจริญจิตภาวนาเพิ่มกำลังสติสำเร็จด้วยดี

อย่างไรก็ดี การฝึกเจริญจิตภาวนาเพิ่มกำลังสตินั้น เป็นสิ่งที่คุ้มค่าต่อการมุ่งมั่นทุ่มเทเรียนรู้ จึงควรฝึกฝนปฏิบัติอย่างเอาจริงเอาจังต่อเนื่องสม่ำเสมอ เพราะผลลัพธ์ที่ได้สร้างพลังใจค้ำจุนชีวิตได้จริง และเป็นเส้นทางนำสู่การเห็นธรรม รู้ธรรม และสามารถ ใช้ธรรมเป็นอำนาจ ในการบริหารหน้าที่การงานและการดำเนินชีวิตสู่ความสำเร็จและมีสันติสุข นอกจากนี้สิ่งต้องเรียนรู้คือการสั่งสมบุญกุศลอย่างฉลาด เพราะเงินทองอำนาจ ตายไปก็สูญ ใช้ไม่ได้ในโลกหน้า สิ่งเรานำไปใช้ได้คือบุญกุศลหรืออริยทรัพย์เท่านั้น

บ่มเมล็ดพันธ์ุกุศล ชวนเยาวชนกัมพูชาสร้างอริยทรัพย์

วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม พ.ศ.2566

ที่วัด Nigrodavana (Kototent) กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯ บรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจนำหลักธรรมองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาใช้เป็นหลักการดำเนินชีวิตแก่เยาวชนและผู้ปกครองชาวกัมพูชาโรงเรียนมัธยมสตรี Happy Chandara ภายใต้หัวข้องาน ยุติความจนไว้ในรุ่นเรา Ending Poverty in our Generation

ดร.สุภชัยฯ ชวนเยาวชนกัมพูชาให้ตระหนักถึงจุดแข็งตนเองที่ได้เกิดเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา และชวนมองให้เห็นสัจจความจริงว่า เวลาเราเกิดมาไม่มีใครนำทรัพย์สมบัติติดตัวมาได้ เช่นเดียวกับเวลาเราตายจากโลกนี้ก็ไม่มีใครนำทรัพย์สมบัติติดตัวไปได้เช่นกัน

ดร.สุภชัยฯ กล่าวถึงโอกาสของเยาวชนกัมพูชาว่า การเกิดในประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนา นับเป็นสิ่งที่ประเสริฐ เพราะมีโอกาสเรียนรู้หลักของชีวิตว่าเราควรมีวิธีจัดการอย่างไรชีวิตจึงจะเจริญ ยุติความจนได้ และมีการงานที่ดีมีทรัพย์สินเงินทอง ที่สำคัญจะดำเนินชีวิตไปสู่เป้าหมายแห่งการเกิดมาเป็นมนุษย์ คือ สู่การพ้นทุกข์ทั้งปวงได้อย่างไร
สำหรับหลักการใช้เครื่องมือหาทรัพย์สมบัตินั้น คือ เยาวชนทุกคนควรฝึกฝนพัฒนาตนเองให้เป็นนักปราชญ์ สำหรับหัวใจนักปราชญ์นั้นมี 4 ประการ

สุ หมายถึง ต้องรู้จัก หาความรู้ด้วยการฟังให้มาก อ่านให้มาก จนเป็นพหูสูต

จิ หมายความว่า คิด คิดวิเคราะห์ความรู้ได้รับมาจากการฟังหรืออ่านมาแล้ว

ปุ หมายความว่า ต้องรู้จักถาม คือ ถ้าไม่เข้าใจสิ่งใดให้ถามท่านผู้รู้ อย่าปล่อยค้างคา

ลิ หมายความว่า เขียน ต้องจดบันทึกความรู้ที่ได้มาจากสิ่งที่อ่าน ฟัง หรือคิดได้

กระบวนการบ่มเพาะความเป็นนักปราชญ์ จะทำให้ผู้นั้นเป็นผู้ปัญญาสามารถทำการงานได้ดี และการทำงานจะสำเร็จต้องใช้หลักอิทธิบาท 4 ประกอบด้วย

ฉันทะ คือ ความรักความพอใจในงาน

วิริยะ คือ ความขยันหมั่นเพียร งานทุกอย่างจะสำเร็จได้ต้องอาศัยความขยันหมั่นเพียร

จิตตะ คือ เอาใจใส่รับผิดชอบกับงานที่ทำ

วิมังสา คือ การพินิจพิเคราะห์และใช้ปัญญาตรวจสอบงาน

สรุปคือการฝึกฝนพัฒนาตนเองให้พร้อมกับการทำงานสู่ความสำเร็จด้วยปัญญาของนักปราชญ์นั่นเอง ซึ่งเห็นได้ว่าหากเรานำหลักธรรมมาปรับใช้ในการทำงาน เราจะมีเข็มทิศนำทางสู่ความสำเร็จได้

ความสำคัญอีกประการ คือ ทุกคนควรหันมาสั่งสมอริยทรัพย์ ซึ่งเป็นทรัพย์ที่ครอบคลุมทั้งชาตินี้และสามารถนำข้ามชาติข้ามภพได้ เพราะเป็นทรัพย์อันประเสริฐที่ประทับอยู่ภายในจิตใจ ไม่มีผู้ใดแย่งชิง ไม่สูญหาย ทำให้ใจเป็นสุข ที่สำคัญไม่ทำให้ยากจน

ในหมู่ผู้รู้คุณค่าจึงให้ความสำคัญและเวลาในการสั่งสมอริยทรัพย์ ไม่จมกับการใช้ชีวิตที่ทะยานไปด้วยแรงความโลภกอบโกยทรัพย์สินเงินทองที่ใช้ได้เพียงเฉพาะชาตินี้ ไม่เหมือนกับอริยทรัพย์ที่จะติดตามดูแลเราทุกชาติไป และเรื่องที่ดี คือ ทุกคนร่ำรวยอริยทรัพย์ได้ คือ ต้องผ่านการฝึกปฏิบัติตนเองทั้งหมด 7 ประการ คือ

ศรัทธา มีความเชื่อที่มีเหตุผล มั่นใจในหลักธรรมความดี ศีล เป็นผู้ประพฤติถูกต้องดีงาม

หิริ มีความละอายใจต่อการทำความชั่ว

โอตตัปปะ ความเกรงกลัวต่อความชั่ว

พาหุสัจจะ เป็นผู้ได้ศึกษาเล่าเรียนมาก

จาคะ รู้จักเสียสละ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

ปัญญา รู้เข้าใจถ่องแท้ในเหตุผล ดีชั่ว ถูกผิด คุณโทษ ฯลฯ

อริยทรัพย์ดังกล่าวนี้ ชาวพุทธมีสิทธิเสมอกัน เราทุกคนทำได้ ไม่ต้องใช้ทุนทรัพย์ ใช้แต่ทุนทางใจที่มั่นคง มุ่งมั่นหาโอกาสสั่งสมอริยทรัพย์ อันเป็นทรัพย์ที่จะค้ำจุนชีวิตพวกเราได้จริง

ดร.สุภชัยฯ เตือนย้ำให้เยาวชนทุกคนให้ตั้งเป้าหมาย ค้นหาและเชื่อมั่นในศักยภาพตนเอง พัฒนาตนเองสม่ำเสมอ ชีวิตต้องได้ดี มีอริยทรัพย์ข้ามภพชาติ และวันหนึ่งจะถึงเป้าหมายแห่งการเกิดเป็นมนุษย์ คือ การเดินทางสู่พระนิพพาน ดับทุกข์ทั้งมวลได้

ในการนี้ ยังมีการบรรยายธรรมจาก Ven. Dr. PhraKou Sopheap พระสงฆ์ที่มียอดผู้ติดตามในสื่อออนไลน์กัมพูชามากกว่าสี่ล้านคน และการบรรยายที่สร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตจาก H.E.Veng Sereyvuth ผู้เขียนหนังสือ “No One Born Poor” อดีตรัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวกัมพูชา

สุดท้ายดร.สุภชัยฯ ได้ถวายเครื่องไทยธรรมแด่ Ven. Dr. PhraKou Sopheap อิ่มบุญมีความสุขกันถ้วนหน้า

กราบอาราธนา พระมุณีโกศลบัณฑิต

วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2566

พระเดชพระคุณ พระมุณีโกศลบัณฑิต ดร.ยอน เสง เยียท (Ven.Dr. Yon Seng Yeath) รักษาการอธิการบดี มหาวิทยาลัยพระสีหนุราช (Preah Sīhanoukrāja Buddhist University) รองประธานเลขาธิการคณะสังฆนายก เมตตาให้โอกาส ให้ ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการ สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 มอบหมาย Mr. Houng Daramony กรรมการผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 กัมพูชา เป็นผู้แทนเข้ากราบมอบหนังสือจากสถาบันโพธิคยาฯ เรื่อง ขออาราธนารับเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สถาบันโพธิคยาฯ เพื่อให้การดำเนินงานขับเคลื่อนการหนุนเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติของสถาบันโพธิคยาฯ บรรลุตามวัตถุประสงค์

ในการนี้ พระเดชพระคุณ พระมุณีโกศลบัณฑิต ได้เมตตาตอบรับเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สถาบันฯ เรียบร้อยแล้ว

หารือรายละเอียดเรื่องการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

วันที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๖

ท่านรัฐมนตรีช่วยกระทรวงธรรมการและศาสนา กัมพูชา นำคณะข้าราชการของกระทรวงฯ เข้าหารือในรายละเอียดเรื่องการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ กับ ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการ สถาบันโพธิคยาฯ และนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รองเลขาธิการ และผู้อำนวยหลักสูตรภาวะผู้นำที่มั่นคงในวิถีพุทธ (พุทโธปนายิกศาสตร์) สถาบันโพธิคยาฯ พร้อม Dr. Devyani Khobragade เอกอัครราชทูตอินเดีย ณ พนมเปญ ณ โรงแรมโซฟิเทล พนมเปญ โภคีธารา เพื่อร่วมหารือเรื่องการเตรียมการจัดงานธรรมยาตรา ๓ แผ่นดินครั้งที่ ๓ มหานทีคงคา-ลุ่มนำโขง : สักการะพระบรมสารีรีกธาตุ พร้อมพระอรหันตธาตุพระสารีบุตรและพระมหาโมคคัลลานะจากชมพูทวีป ซึ่งมีกำหนดการจัดอย่างยิ่งใหญ่ในปลายปีนี้

หารือเรื่องการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

วันที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๖

นายเชิดเกียรติ อัตถากร เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้นำ ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการ สถาบันโพธิคยาฯ และนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รองเลขาธิการ และผู้อำนวยหลักสูตรภาวะผู้นำที่มั่นคงในวิถีพุทธ (พุทโธปนายิกศาสตร์) สถาบันโพธิคยาฯ เข้าพบกับท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมการ และศาสนา เพื่อยื่นหนังสือของท่านรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของไทย และหารือเรื่องการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมพระอรหันตธาตุพระสารีบุตร พระมหาโมคคัลลานะจากชมพูทวีปเยือนประเทศกัมพูชา ในโครงการธรรมยาตรา ๓ แผ่นดิน ครั้งที่ ๓ มหานทีคงคา-ลุ่มน้ำโขง

เอกอัครราชทูตอินเดียกรุงพนมเปญ เจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ

วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๖

เอกอัครราชทูตอินเดีย Dr. Devyani Khobragade เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ รองประธานกรรมการ และเลขาธิการสถาบันโพธิคยา และนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รองเลขาธิการและผู้อำนวยการหลักสูตรภาวะผู้นำที่มั่นคงในวิถีพุทธ (พุทโธปนายิกศาสตร์) สถาบันโพธิคยา พร้อมด้วยเอกอัครราชทูตลาวประจำกรุงพนมเปญที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตอินเดีย พนมเปญ ประเทศกัมพูชา เพื่อร่วมหารือเรื่องการเตรียมการจัดงานธรรมยาตรา ๓ แผ่นดินครั้งที่ ๓ มหานทีคงคา-ลุ่มนำโขง : สักการะพระบรมสารีรีกธาตุ พร้อมพระอรหันตธาตุพระสารีบุตรและพระมหาโมคคัลลานะจากชมพูทวีป ซึ่งมีกำหนดการจัดอย่างยิ่งใหญ่ในปลายปีนี้

กราบถวายบังคม สมเด็จพระอัครมหาสังฆราชาธิบดี เทพวงศ์

วันจันทร์ที่ ๑๗ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๖

เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอัครมหาสังฆราชาธิบดี เทพวงศ์สมเด็จพระสังฆราช ประเทศกัมพูชา ประทานวโรกาสให้ ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯ ประธานกรรมการบริหาร วิทยุและโทรทัศน์ช่อง ๕ กัมพูชา ได้นำคณะผู้บริหารโทรทัศน์ช่อง ๕ กัมพูชา เข้ากราบถวายบังคม เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอัครมหาสงฆ์ราชาธิบดี เทพวงศ์ สมเด็จพระมหาสงฆ์ราชแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และกราบทูลเรื่อง การเตรียมงานธรรมยาตรา (ครั้งที่ ๓) มหานทีคงคา-ลุ่มน้ำโขง: สักการะพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมพระอรหันตธาตุพระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะจากชมพูทวีป

ในการนี้ ดร.สุภชัยฯได้นำคณะจากสำนักงานสื่อสารระหว่างประเทศของนิกายจูเก ของประเทศเกาหลีใต้ นำโดยพระ อู จีน เข้ากราบบังคม เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอัครมหาสังฆราชาธิบดี เทพวงศ์ฯ ด้วย

ประชุมสามัญคณะกรรมการบริหารงาน ประจำปี พ.ศ.๒๕๖๖

วัน ๑๓ – ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๖

คณะกรรมการบริหารงานสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย ๙๘๐ เยือนเมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ประชุมสามัญประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๖ รายงานผลการดำเนินงานตลอด ๑๖ ปีที่ก่อตั้ง และนำเสนอพุทธวิธีในการขับเคลื่อนสถาบันโพธิคยาฯ โดยวางนโยบาย “โลกสันติสุข ต้องใช้ “ธรรม” เป็น “อำนาจ”

พร้อมเตรียมจัดงานมหามงคลครั้งประวัติศาสตร์ ธรรมยาตราครั้งที่ ๓ มหานทีคงคา-ลุ่มน้ำโขง: สักการะพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมพระอรหันตธาตุ พระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะจากชมพูทวีป

รวมทั้งเตรียมเปิดหลักสูตรภาวะผู้นำที่มั่นคงในวิถีพุทธ (พุทโธปนายิกศาสตร์)

ในการนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สถาบันโพธิคยาฯ เมตตามอบ พระพรหมเสนาบดี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคาราชวรวิหาร และเจ้าคณะภาค ๗ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สถาบันโพธิคยาฯ เป็นประธานในการประชุมฯ โดยมีคณะกรรมการบริหารงานเข้าร่วมประชุมด้วย อาทิ พระพรหมวชิรานายก เจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๑ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สถาบันโพธิคยาฯ พระธรรมโพธิวงศ์ เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล ประธานสถาบันโพธิคยาฯ พระเมธีวรญาณ คณบดีคณะพุทธศาสตร์ มจร ประธานกรรมการ สถาบันโพธิคยาฯ ดร.อภัย จันทนจุลกะ รองประธานคณะกรรมการ ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรพุทโธปนายิกศาสตร์และรองเลขาธิการ นายเกษม มูลจันทร์ รองเลขาธิการ นายสุรพล มณีพงษ์ รองเลขาธิการ นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล กรรมการ นายอภิศักดิ์ ธนเศรษฐกร กรรมการ และนายพรเทพ อัมพรกลิ่นแก้ว กรรมการ

พิธีเจริญพระพุทธมนต์ ที่เสียมราฐ กัมพูชา

วัน ๑๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๖ เวลา ๗.๐๐ น.

ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิฯ นำคณะกรรมการบริหารงานสถาบันและผู้บริหารโรงแรมโซฟิเทล อังกอร์ โภคีธรา กอล์ฟ & สปา รีสอร์ท ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายภัตตาหารเช้า และเครื่องไทยธรรม เพื่อการสั่งสมกุศลและความเป็นสิริมงคล 

ในพิธีนี้ พระเดชพระคุณ พระพรหมเสนาบดี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคาวรวิหาร ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ เมตตาเป็นประธานในพิธี โดยมีคณะสงฆ์เข้าร่วมพิธี ดังนี้ พระพรหมวชิรนายก เจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๑ พระธรรมโพธิวงศ์ หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล เจ้าอาวาสไทยพุทธคยา ประธาน สถาบันฯ พระเมธีวรญาณ คณบดีคณะพุทธศาสตร์ มจร รองเจ้าคณะภาค๑๐ ประธานกรรมการ สถาบันฯ พระวิเทศวชิรญาณ วิ.กรรมการสถาบัน พระวิเทศวัชรจารย์ กรรมการสถาบันฯ พระราชวชิรสีมาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา พระราชปริยัติวิธาน รักษาการเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ผช.เจ้าอาวาสวัดตากฟ้า พระครูปลัดสุวัฒนนายก พระครูปริยัติคุณาภรณ์ พระครูโพธิวชิรวิภาค

ในศุภวาระนี้ ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และคุณความดีที่บำเพ็ญ เป็นปัจจัยนำพาสันติสุขมาสู่ทุกท่าน ขอให้ท่านจงเป็นผู้เจริญด้วยสรรพมงคล สมปรารถนาในสิ่งที่ประกอบโดยธรรม ประสบความสวัสดีเกษมศานต์ โดยทั่วหน้ากัน เทอญ

เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล

วันจันทร์ที่ ๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๖ เวลา ๑๐.๐๐ น.

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี วันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๖

เจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เมตตาเป็นประธานฝ่ายบรรพชิต นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ประธานฝ่ายคฤหัสถ์ ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล

โดยพระธรรมโพธิวงศ์ ประธาน สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย ๙๘๐ เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา หัวหน้าพระธรรมทูต สายประเทศอินเดีย-เนปาล มอบหมายให้พระวิเทศวชิรญาณ (สมพงศ์ ญาณธีโร ดร.) รักษาการเจ้าอาวาสวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ มีพระพรหมวชิราธิบดี อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เป็นประธานเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมพระเถรานุเถระ ๑๐ รูป

ในโอกาสมหามงคลนี้ ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการ พร้อมด้วย นายเกษม มูลจันทร์ รองเลขาธิการ เข้าร่วมพิธีด้วย พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม อาทิ นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา นายประสพ เรียงเงิน ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ สื่อมวลชน และประชาชน เข้าร่วมพิธี

พิธีพระราชทานเพลิง นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร

อดีตที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สถาบันโพธิคยาฯ

วันอาทิตย์ที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ เวลา ๑๗.๓๐ น.

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากวังสระปทุม ไปในการพระราชทานเพลิงศพ นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร ม.ป.ช.,ม.ว.ม. ณ เมรุวัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร

ในการนี้ ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการ พร้อมคณะผู้บริหารสถาบันโพธิคยาฯ ได้เข้าร่วมงานพระราชทานเพลิงนายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร อดีตที่ปรึกษากิตติมศักดิ สถาบันโพธิคยาวิทยาลัย ๙๘๐ โดยพร้อมเพรียง